9 Home
วิกฤติภัยน้ำประปาเค็มจากภัยแล้ง… มีทางแก้ !
วิกฤติภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำในตอนนี้นับเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะกับการประสบกับปัญหาน้ำประปาเค็มในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ มีรสเค็ม “น้ำ” เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต เมื่อเราต้องเจอกับปัญหาน้ำประปาเค็ม ซึ่งมีผลนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างยิ่ง น้ำประปาเค็มมีอันตรายต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? จากแนวโน้มภัยแล้งดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะน้ำประปาเค็ม ในเขต กทม.และปริมณฑล องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่าแนะนำเพื่อความน่าดื่มและการยอมรับของผู้บริโภคไว้ ในน้ำประปาควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลกระทบต่อใครบ้าง? โรงผลิตน้ำที่ไม่มีระบบกรองความเค็มที่ดีมีผลต่อผู้บริโภคที่ใช้น้ำอุปโภคและบริโภคโรงผลิตน้ำควรใช้ความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผู้อุปโภคบริโภคที่ควรระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้สูงอายุ เด็ก ควรรับมืออย่างไร ดื่มได้หรือไม่? มีข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือกับช่วงน้ำประปาเค็มจากผลกระทบน้ำภัยแล้งลากยาว ถึง พ.ค. ดังนี้ 1.การซื้อน้ำขวดมาบริโภค แน่นอนว่าเป็นการให้ความมั่นใจที่ชัดเจน แต่การซื้อน้ำบรรจุขวดมาบริโภคเป็นเวลาติดต่อกันหลายเดือน อาจเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่สูงขึ้น 2.ไม่ควรนำน้ำประปามาต้มดื่มโดยเด็ดขาด เพราะการต้มน้ำประปาจะทำให้เกิด “การระเหย” ทำให้ปริมาณน้ำลดลง แต่ความเค็มจากการตกตะกอนของเกลือเพิ่มมากขึ้น ทำให้น้ำมีความเข้มข้นของเกลือหรือโซเดียมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อนำน้ำประปาที่ต้มไปดื่ม ยิ่งเพิ่มเกลือในร่างกายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 3.การติดตั้งเครื่องกรองน้ำแบบ อาร์โอ RO [...]




