9 Home

Home/9 Home

9 Home

วิกฤติภัยน้ำประปาเค็มจากภัยแล้ง… มีทางแก้ !

By |2020-05-22T11:33:53+00:00มกราคม 13th, 2020|9 Home|

วิกฤติภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำในตอนนี้นับเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะกับการประสบกับปัญหาน้ำประปาเค็มในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ มีรสเค็ม “น้ำ” เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต เมื่อเราต้องเจอกับปัญหาน้ำประปาเค็ม ซึ่งมีผลนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างยิ่ง น้ำประปาเค็มมีอันตรายต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? จากแนวโน้มภัยแล้งดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะน้ำประปาเค็ม ในเขต กทม.และปริมณฑล องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่าแนะนำเพื่อความน่าดื่มและการยอมรับของผู้บริโภคไว้ ในน้ำประปาควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร  ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลกระทบต่อใครบ้าง? โรงผลิตน้ำที่ไม่มีระบบกรองความเค็มที่ดีมีผลต่อผู้บริโภคที่ใช้น้ำอุปโภคและบริโภคโรงผลิตน้ำควรใช้ความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผู้อุปโภคบริโภคที่ควรระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้สูงอายุ เด็ก ควรรับมืออย่างไร ดื่มได้หรือไม่? มีข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือกับช่วงน้ำประปาเค็มจากผลกระทบน้ำภัยแล้งลากยาว ถึง พ.ค. ดังนี้ 1.การซื้อน้ำขวดมาบริโภค แน่นอนว่าเป็นการให้ความมั่นใจที่ชัดเจน แต่การซื้อน้ำบรรจุขวดมาบริโภคเป็นเวลาติดต่อกันหลายเดือน อาจเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่สูงขึ้น 2.ไม่ควรนำน้ำประปามาต้มดื่มโดยเด็ดขาด เพราะการต้มน้ำประปาจะทำให้เกิด “การระเหย” ทำให้ปริมาณน้ำลดลง แต่ความเค็มจากการตกตะกอนของเกลือเพิ่มมากขึ้น ทำให้น้ำมีความเข้มข้นของเกลือหรือโซเดียมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อนำน้ำประปาที่ต้มไปดื่ม ยิ่งเพิ่มเกลือในร่างกายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 3.การติดตั้งเครื่องกรองน้ำแบบ อาร์โอ RO [...]

เคล็ด(ไม่)ลับ ซักผ้ายังไงให้หอมกรุ่น ปราศจากกลิ่นอับ

By |2018-12-11T09:54:47+00:00ธันวาคม 11th, 2018|9 Home|

1.จะใส่กี่ครั้งก็ยังถนอมเนื้อผ้า เปลี่ยนหลายชุดใส่แค่แปบเดียวในแต่ละวันถ้ายังไม่อยากซัก แต่กลัวกลิ่นไม่พึงประสงค์ กำจัดได้ง่ายๆด้วยน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าอย่างละครึ่งลงบนจุดเกิดเหตุที่เหม็นเหงื่อ เช่น คอปกเสื้อ ใต้วงแขน จากนั้นนำไปตากแดด ให้ลมโกรกเบาๆ แทนการซัก แค่นี้ก็ช่วยถนอมเสื้อผ้าให้ใส่ซ้ำได้อีกรอบ 2. เพิ่มความหอมตั้งแต่ก่อนซัก อยากให้ผ้ามีกลิ่นหอมกรุ่นอยู่เสมอง่ายนิดเดียว เพียงหยิบน้ำมันหอมระเหยกลิ่นไหนก็ได้ที่เราชอบ ลงไปในกระบอกสเปรย์ที่บรรจุด้วยน้ำสะอาดเกือบเต็มประมาณ 3 – 4 หยด แล้วนำไปฉีดพรมลงบนเสื้อผ้าให้ทั่วก่อนนำไปซัก แค่นี้เสื้อผ้าก็จะหอมเหมือนใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว 3. กลิ่นอับในผ้ากระดาษฟอยล์ช่วยได้         ช่วงนี้หลายๆคนคงกังวลการซักผ้าในวันที่ฝนตก เพราะสิ่งที่ตามมาคือกลิ่นอับและแบคทีเรีย เรามีวิธีง่ายๆมาให้ลองทำกันโดยการใช้กระดาษฟอยล์ปั้นเป็นก้อนกลมๆใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าในขั้นตอนการปั่นแห้งครั้งสุดท้าย เท่านี้สารในกระดาษฟอยล์จะดูดซึมกลิ่นอับและแบคทีเรียออกไป ช่วยให้ผ้าหอมสดชื่นไร้กลิ่นอับ 4. ผ้าหอมกรุ่น ประหยัดน้ำยา      ผ้าหอมกรุ่นและประหยัดน้ำยาปรับผ้านุ่ม ด้วยวิธีแสนง่ายๆโดยการนำผ้าขนหนูผืนเล็กชุปน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น ปล่อยทิ้งไว้ให้ผ้าแห้ง จากนั้นในการซักผ้าทุกครั้งก็จับผ้าขนหนูอันนี้ใส่ลงไปในขั้นตอนปั่นแห้งครั้งสุดท้าย แค่นี้ก็ช่วยให้ผ้าหอมฟุ้งและประหยัดด้วยค่า                 เคล็ดไม่ลับแบบนี้จะซักผ้ากี่ทีก็หมดห่วง แต่ถ้าจะให้ดีเพื่อให้การซักผ้าไม่สะดุดควรต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้น คือการเลือกผงซักผ้าที่ทำให้ผ้าขาวสะอาด สีสันสดใส ถนอมเนื้อผ้าลึกถึงเส้นใยเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการซักผ้าอีกต่อไป

ขจัดรอยเปื้อนง่ายๆได้ด้วยตัวเอง

By |2018-12-11T09:49:37+00:00ธันวาคม 11th, 2018|9 Home|

1.คราบซอสถั่วเหลืองบนเสื้อผ้าของคุณ 3 ขั้นตอนการขจัดคราบซอสถั่วเหลืองบนเสื้อผ้า นำกระดาษทิชชู่ซับซอสถั่วเหลืองออก นำเสื้อไปแช่ในน้ำสบู่ 20 นาที เติมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นก็นำไปซักปกติได้เลยค่า  แม่บ้าน พ่อบ้านต้องพิสูจน์ 2.รอยคราบเลือดบนเสื้อผ้า ขจัดรอยคราบเลือดจากเสื้อผ้าหรือผ้าปูเตียงได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ขั้นตอนแรกนำผ้าเปียกมาซับเลือด นำหยดน้ำผสมสบู่เทลงไปปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้แปรงสีฟันแปรงเบาๆ ถ้ายังมีคราบเหลืออยู่ให้ทำซ้ำอีกครั้ง จากนั้นก็นำผ้าไปปั่นหรือซักได้ตามปกติเลย 3.คราบน้ำมันบนผ้าขจัดได้ด้วยแป้ง คราบน้ำมันบนผ้าขจัดได้ด้วยแป้ง เพียงโรยแป้งฝุ่นลงบนคราบน้ำมันบนผ้า จากนั้นทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง แป้งฝุ่นจะทำหน้าที่ดูดซับคราบน้ำมัน หลังจากนั้นซักด้วยผงซักฟอกปกติ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น (ไม่ควรปล่อยให้คราบน้ำมันแห้งเพราะจะขจัดได้ยาก) 4.คราบน้ำหมึกหรือรอยปากกา คราบน้ำหมึกหรือรอยปากกาที่เราคุ้นเคยดีในชุดนักเรียน เครื่องเรือน หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน สามารถขจัดคราบได้ด้วยการเช็ดแอลกอฮอลล์หรือน้ำยาล้างเล็บ จากนั้นก็ซักด้วยน้ำอุ่น 5.รอยคราบเหลืองบนปกคอเสื้อ คราบเหลืองๆบนปกคอเสื้อหรือใต้วงแขน โดยเฉพาะผ้าขาวเห็นได้ชัดมาก ถ้าไม่อยากใช้น้ำยาแรงๆก็ลองหันมาลองอีกหนึ่งวิธีที่สามารถขจัดคราบได้คือ ผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่ากันและขยี้เบาๆ หรือผสมเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1 แก้ว หยดลงบนรอยแล้วค่อยๆขยี้ออกเท่านี้คราบก็จะค่อยๆจางลง จากนั้นก็นำไปซักได้ตามปกติได้ลย ขจัดรอยเปื้อนได้ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องหาวัตถุดิบให้เปลืองเวลา เพียงเลือกผงซักผ้าที่ทั้งขจัดรอยเปื้อนให้อยู่หมัด [...]

5 สูตรผ้าหมองแค่ไหนก็กลับมาขาวใหม่ได้เสมอ!

By |2018-12-11T09:45:30+00:00ธันวาคม 11th, 2018|9 Home|

1.สูตรน้ำมะนาว ความเปรี้ยวของมะนาวก็ทำให้ผ้าหมองๆกลายเป็นใหม่ได้ด้วยการผสมน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก แล้วนำเสื้อมาแช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือ 1 คืนก่อนนำไปซักตามวิธีปกติอีกครั้ง 2.สูตรน้ำส้มสายชู         สูตรนี้ให้ทำหลังจากซักเสร็จแล้ว โดยให้นำเสื้อมาซักกับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงผสมน้ำเปล่าอีกครั้ง ก่อนนำไปตากให้โดนแดด ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผ้าขาวกลับมาใหม่และทำลายคราบหมองจนเกลี้ยง 3.สูตรแอมโมเนีย         แอมโมเนียช่วยให้ผ้าขาวคุณขาวสะอาดได้เหมือนกัน โดยการผสมแอมโมเนียกับน้ำเปล่าให้เจือจาง แล้วนำไปซักผ้าขาวพร้อมผงซักฟอก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าผสมแอมโมเนียกับผงซักฟอกโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ 4.สูตรเบคกิ้งโซดา         นอกจากเบคกิ้งโซดาจะช่วยทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังทำให้ผ้าขาวเหมือนใหม่ได้อีกด้วย โดยการเทเบคกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก  ก่อนนำผ้าขาวมาซักทำความสะอาดตามปกติ ผ้าขาวของคุณก็จะขาวสะอาดเหมือนใหม่เลยล่ะ 5.สูตรน้ำซาวข้าว         รู้หรือไม่ว่าน้ำซาวข้าวที่เราเททิ้งนั้นมีประโยชน์มาก เพราะมันสามารถซักผ้าขาวของเราให้ขาวสะอาดได้ด้วยนะ โดยนำผ้าขาวไปซักแล้วแช่ไว้ในน้ำซาวข้าวผสมน้ำเปล่าประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยนำผ้าขาวมาซักอีกครั้ง         แม้ผ้าขาวของคุณจะหม่นหมองหรือเลอะคราบเปื้อนแค่ไหน สูตรซักผ้าขาวเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้ผ้าขาวของคุณกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง ไม่ต้องเสียเงินซื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สิ้นเปลืองเลย แต่ถ้าจะให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายควรเลือกผงซักผ้าที่มีคุณสมบัติครบจบ 1 ในเดียว เพื่อช่วยประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน เพียงเท่านี้ชีวิตก็จะดีและง่าย [...]

Go to Top